การรณรงค์บรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
ตั้งพุทธศาสนาเป็นศาสนาประชาติ
พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติทั้งโดยขนบธรรมเนียม,จารีตประเพณี ทั้งโดยรากเหง้าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ฝังรากหยั่งลึกมาในความเป็นไทยมาตลอดหลายร้อยปี แต่ก็ยังไม่ยอมบันทึกหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในรัฐธรรมนูญให้คนทั้งแผ่นดินทราบ
ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยและบ้านเมืองเราก็เป็นนิติรัฐ คือตัดสินถูกผิดกันด้วยกฎหมาย ทุกอย่างต่างมีกฏหมายคุ้มครอง เพื่อแสดงถึงสิทธิอันชอบธรรมในสิ่งนั้นๆหรือสถานะนั้นๆที่ดินที่เคยเปิดโล่งและถูกจับจองแบบง่ายๆเพื่อเป็นที่อาศัยและทำกินต่างต้องมีโฉนดที่ดินเพื่อแสดงถึงสิทธิการครอบครองอย่างถูกต้องตามกฏหมาย ที่อยู่อาศัยที่เคยสร้างขึ้นแบบง่ายๆก็ต้องไปจดแจ้งเลขที่บ้านเอาไว้ สามีและภรรยาแต่งงานก็มีการจดทะเบียนสมรสว่าเป็นผู้มีสิทธิ์อันชอบธรรมในอีกฝ่ายอย่างถูกต้องตามกฏหมาย แม้แต่ป่าไม้ ภูเขา สัตว์ป่า ล้วนมีกฏหมายคุ้มครอง วัฒนธรรมประเพณีต่างๆก็มีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่มีคุณูปการะต่อความสงบร่มเย็นของสังคมไทยมานานและเป็นแหล่งกำเนิดแห่งวัฒนธรรมประเพณีของไทย แม้วาทะกรรม ที่เกิดสยามเมืองยิ้ม หรือความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น และความเมตตาไม่สิ้นสุดของชาวไทยล้วนมีรากฐานมาจากคำสอนในพระพุทธศาสนาแทบทั้งสิ้นพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ส่งเสริมหลักการและคุณค่าของสันติภาพ ความไม่รุนแรง ความเมตตาและความอดกลั้น จึงส่งผลต่อสันติสุขในชาติและโลก เมื่อเห็นคุณของพระพุทธศาสนาแล้วควรจะร่วมใจกันลงชื่อเพื่อยกร่าง พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
การบรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไม่ได้หมายความว่าประชาชนนับถือศาสนาอื่นไม่ได้ แต่หมายความว่าประเทศยึดพุทธศาสนาเป็นแนวทางหลักในการดำเนินชีวิตมาทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคต
ถ้าเสียศาสนาพุทธ ก็จะเสียประเพณี
เสียประเพณี ก็จะเสียวัฒนธรรม
เสียวัฒนธรรม ก็เสียจิตวิญาณ
เสียจิตวิญญาณ ก็เสียศิลปวรรณกรรม
เสียศิลปวรรณกรรม ก็เสียทุกสิ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบเป็นไทย การละเล่น การดนตรี กนกลายไทย ภาพวาด จิตกรรม ประณีตศิลปฯลฯ ภาษาความเชื่อ การกิน การนอน การพูด การคุย
การทักทาย การแต่งกาย มารยาททางสังคม ความเคารพ ความอ่อมน้อม ความเชื่อ วิถีชีวิต
ความเป็นอยู่ปกติประจำวัน ฯลฯ และทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไทย